IVF เจาะลึกเทคโนโลยีช่วยตั้งครรภ์แบบปฏิสนธินอกร่างกาย

หากคุณพยายามมีลูกมานานแต่ยังไม่สำเร็จ IVF หรือ In Vitro Fertilization คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุดในยุคนี้ ซึ่งได้รับการพัฒนาและยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในไทยและต่างประเทศ

IVF คืออะไร

IVF (In Vitro Fertilization) คือ กระบวนการทางการแพทย์ที่นำเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิงและอสุจิของฝ่ายชายมาผสมกัน นอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ แล้วเลี้ยงจนเกิดตัวอ่อน ก่อนย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กับผู้มีภาวะมีบุตรยากขั้นปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติหรือ IUI ได้

ประวัติและพัฒนาการของ IVF

IVF เริ่มต้นใช้จริงในปี ค.ศ. 1978 โดยมีเด็กคนแรกเกิดในประเทศอังกฤษ และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ได้กลายเป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยมีความแม่นยำมากขึ้นทุกปี จากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น:

  • การตรวจคัดโครโมโซมก่อนฝัง (PGT-A)
  • การแช่แข็งไข่และตัวอ่อน
  • การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst)

IVF ต่างจากวิธีธรรมชาติยังไง

ในร่างกายมนุษย์ การปฏิสนธิเกิดขึ้นในท่อนำไข่ แต่ในการทำ IVF เรา ควบคุมทุกขั้นตอนในห้องแล็บ

ข้อดีคือ:

  • เลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดก่อนย้าย
  • เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ในผู้ที่ระบบสืบพันธุ์ไม่สมบูรณ์
  • ลดความเสี่ยงของการแท้งซ้ำ
IVF-คืออะไร

ประวัติและพัฒนาการของ IVF

IVF เริ่มต้นใช้จริงในปี ค.ศ. 1978 โดยมีเด็กคนแรกเกิดในประเทศอังกฤษ และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ได้กลายเป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยมีความแม่นยำมากขึ้นทุกปี จากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น:

  • การตรวจคัดโครโมโซมก่อนฝัง (PGT-A)
  • การแช่แข็งไข่และตัวอ่อน
  • การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst)

IVF ต่างจากวิธีธรรมชาติยังไง

IVF-คืออะไร

ในร่างกายมนุษย์ การปฏิสนธิเกิดขึ้นในท่อนำไข่ แต่ในการทำ IVF เรา ควบคุมทุกขั้นตอนในห้องแล็บ

ข้อดีคือ:

  • เลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดก่อนย้าย
  • เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ในผู้ที่ระบบสืบพันธุ์ไม่สมบูรณ์
  • ลดความเสี่ยงของการแท้งซ้ำ

IVF เหมาะกับใคร

ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องทำ IVF แต่สำหรับบางกลุ่ม IVF คือ “คำตอบเดียว” ที่เพิ่มโอกาสสำเร็จได้จริง ดังนั้น การทำ IVF จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ ได้แก่

IVF-เหมาะกับใคร

คู่รักที่พยายามมีลูกมานานแต่ไม่สำเร็จ

หากคุณพยายามตั้งครรภ์นานกว่า 1 ปี (หรือ 6 เดือนหากอายุมากกว่า 35 ปี) โดยไม่ใช้วิธีคุมกำเนิด แต่ยังไม่สำเร็จ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในการทำ IVF

ผู้หญิงที่มีปัญหาท่อนำไข่

ท่อนำไข่อุดตัน ตีบ หรือถูกตัดจากการผ่าตัด ทำให้ไข่ไม่สามารถเดินทางไปพบอสุจิได้ตามธรรมชาติ IVF จึงเข้ามาทำหน้าที่แทนท่อนำไข่

ฝ่ายชายมีอสุจิคุณภาพต่ำ

ในกรณีที่อสุจิมีจำนวนหรือการเคลื่อนไหวต่ำกว่ามาตรฐาน IVF (หรือ ICSI) จะช่วยแก้ปัญหานี้โดยตรง

เคยทำ IUI แล้วไม่สำเร็จ

หากพยายามทำ IUI มาแล้ว 2–3 รอบโดยไม่ประสบความสำเร็จ แพทย์มักแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็น IVF เพื่อเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์

การเตรียมตัวก่อนเริ่ม IVF

การเตรียมตัวก่อนทำ-IVF

ตรวจสุขภาพเบื้องต้น

ก่อนเข้าสู่กระบวนการ IVF แพทย์จะทำการวินิจฉัยร่างกายอย่างละเอียด เช่น:

    • ตรวจระดับฮอร์โมน FSH, LH, AMH
    • ตรวจรังไข่และมดลูกด้วยอัลตราซาวด์
    • ตรวจน้ำเชื้อฝ่ายชาย
    • ตรวจเลือดหาโรคติดต่อหรือพันธุกรรม

ดูแลร่างกายและจิตใจก่อนการรักษา

    • งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด
    • รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โฟเลต วิตามิน E และ C

เลือกแผนการรักษาที่เหมาะสม

แพทย์จะช่วยวางแผนให้เหมาะกับสภาพร่างกาย เช่น:

    • รอบธรรมชาติ / รอบกระตุ้นไข่
    • จำนวนตัวอ่อนที่จะย้าย
    • การแช่แข็งไข่หรือตัวอ่อนเผื่อใช้ในอนาคต

ขั้นตอนการทำ IVF

ขั้นตอนการทำ IVF

การทำ IVF (In Vitro Fertilization) ประกอบด้วยรายละเอียดอยู่หลายขั้นตอน ซึ่งต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิและการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูกอย่างมีประสิทธิภาพ

การกระตุ้นไข่ (Ovarian Stimulation)

ในรอบเดือนปกติ ผู้หญิงจะมีไข่ตกเพียง 1 ใบ แต่สำหรับการทำ IVF เราต้องการไข่หลายใบเพื่อเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนกระตุ้นไข่ผ่านการฉีดใต้ผิวหนังทุกวัน โดยปกติใช้เวลา 8–12 วัน

สิ่งที่ต้องทำในช่วงนี้:

    • ฉีดยากระตุ้นไข่ทุกวันตามแพทย์กำหนด
    • ตรวจระดับฮอร์โมนและอัลตราซาวด์ติดตามขนาดไข่
    • รับคำแนะนำเรื่องโภชนาการและการพักผ่อน

เมื่อไข่มีขนาดประมาณ 18–22 มิลลิเมตร แพทย์จะนัดฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก (Trigger Shot) และเตรียมเก็บไข่ในอีก 34–36 ชั่วโมงถัดไป

การเก็บไข่และน้ำเชื้อ (Egg Retrieval & Sperm Collection)

หลังจากฉีดยากระตุ้นไข่ แพทย์จะนัดวันเก็บไข่โดยใช้เข็มเจาะผ่านช่องคลอด ภายใต้การใช้ยาชาหรือยาสลบอย่างอ่อน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียง 15–30 นาที

ฝ่ายหญิง:

    • นอนพักในคลินิกประมาณ 1–2 ชั่วโมง
    • อาจรู้สึกแน่นท้องหรือปวดหน่วงเล็กน้อย

ฝ่ายชาย:

    • เก็บน้ำเชื้อในวันเดียวกันกับวันเก็บไข่
    • หากไม่สามารถเก็บในวันนั้นได้ อาจใช้ตัวอย่างที่แช่แข็งไว้ล่วงหน้า
      “อสุจิจะถูกนำไปล้างและคัดคุณภาพ โดยนักวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการ”

การผสมและเพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Fertilization & Embryo Culture)

ผสมไข่กับอสุจิ:

    • ถ้าใช้ IVF: ปล่อยให้อสุจิผสมกับไข่ในจานเลี้ยงเซลล์แบบธรรมชาติ
    • ถ้าใช้ ICSI: แพทย์จะฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง

เพาะเลี้ยงตัวอ่อน:

    • ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิจะถูกเลี้ยงไว้ในตู้อบ (Incubator) ประมาณ 3–5 วัน
    • ทีมแพทย์จะติดตามการพัฒนาและเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด
      “ในบางกรณี อาจเลือกตรวจโครโมโซม (PGT-A) ก่อนย้ายกลับ เพื่อคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม”

การย้ายตัวอ่อน (Embryo Transfer)

ตัวอ่อนที่สมบูรณ์จะถูกย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกในวันที่ 3 หรือวันที่ 5 หลังปฏิสนธิ ขั้นตอนนี้ไม่เจ็บ ใช้เพียงเครื่องมือปลายอ่อน และไม่ต้องใช้ยาสลบ

หลังย้ายตัวอ่อน:

    • พักประมาณ 60 นาทีในคลินิก
    • รับยาฮอร์โมนช่วยการฝังตัว เช่น โปรเจสเตอโรน
    • ควรงดกิจกรรมหนัก และพักผ่อนให้เพียงพอ

การตรวจผล:

    • ประมาณ 7-10 วันหลังย้ายตัวอ่อน แพทย์จะนัดตรวจเลือดเพื่อเช็กระดับ hCG ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่

IVF ต่างจาก ICSI ยังไง

หลายคนสงสัยว่า IVF และ ICSI ต่างกันตรงไหน และต้องเลือกวิธีใดจึงจะเหมาะสมกับคู่ของตนเอง ทั้งสองวิธีเป็นกระบวนการ “เด็กหลอดแก้ว” เหมือนกัน ต่างกันเพียงขั้นตอนการปฏิสนธิในห้องแล็บ

ความแตกต่างของกระบวนการ

แพทย์จะเลือกให้เหมาะกับคู่ของคุณ

    • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินข้อมูลจากผลตรวจน้ำเชื้อ, อายุฝ่ายหญิง, ประวัติสุขภาพ และความสำเร็จจากการรักษาที่ผ่านมา เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้กับแต่ละคู่
    • ที่ Fertiva Clinic เราใช้เกณฑ์วิเคราะห์แบบรายบุคคล เพื่อให้โอกาสตั้งครรภ์สูงที่สุดในแต่ละรอบ

สรุป – IVF คือความหวังที่ควบคุมได้

การทำ IVF คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และเป็นความหวังของคู่รักที่เผชิญภาวะมีบุตรยาก แม้ขั้นตอนอาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย คุณจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย ถูกต้อง และโปร่งใสในทุกขั้นตอน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ขั้นตอนส่วนใหญ่ไม่เจ็บ เช่น การฉีดยาฮอร์โมนทำได้ที่บ้าน ส่วนการเก็บไข่จะใช้ยาชาหรือยาสลบอ่อน ๆ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างขั้นตอน

แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 4–6 สัปดาห์ ตั้งแต่เริ่มกระตุ้นไข่จนถึงวันตรวจตั้งครรภ์

งานวิจัยทั่วโลกยืนยันว่าเด็กที่เกิดจาก IVF มีสุขภาพและพัฒนาการใกล้เคียงกับเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ

หากมีการย้ายตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัว จะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์แฝด แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงต่อคุณแม่และทารก

การเลือกเพศทำได้โดยการตรวจโครโมโซม (PGT-A) แต่ในประเทศไทย การเลือกเพศต้องมีเหตุผลทางการแพทย์ และอยู่ภายใต้ข้อบังคับของจริยธรรมแพทย์